Speed Up

มาเพิ่มความเร็วให้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ และ อินเตอร์เน็ต ของเรากันเถอะ มีหลากหลายวิธีให้เลือกใช้กันได้อย่างจุใจ เร็ว ... แรง ... ติกปีก

<<<<< Speed Up เร็ว... แรง... ได้ใจ ปรับสปีด ติดปีกให้คอมฯ >>>>>

DEEHI

แนะนำเว็บสร้างรายได้ PaidToClick.in



บทความ

แหล่งรวมข้อมูลดี ๆ ทริป และ เทคนิคต่าง ๆ เกี่ยวกับการปรับสปีดเร่งความเร็วที่ใช้ได้ผล ทรงประสิทธิภาพ และได้รับการยอมรับและไว้วางใจ จากกลุ่มผู้ใช้งานจำนวนมาก ว่าเป็นประโยชน์และมีความสำคัญและจำเป็นต่อการใช้งานคอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ตในยุคปัจจุบันเป็นอย่างมาก รวมถึงการสร้างความเข้าใจสำหรับกลุ่ม User ผู้ใช้งานด้วย ว่าการใช้งาน คอมพิวเตอร์ควรได้รับการศึกษาในเรื่องของการ จัดสรร ทรัพยาการ ของระบบ อย่างถูกวิธี เพื่อรองรับการทำงานที่มีประสิทธิภาพและได้รับประโยชน์อย่างสูงที่สุด มีทั้งการปรับแต่งประสิทธิภาพด้วยตัวเองแบบง่าย ๆ Step By Step มีข้อมูลการปรับแต่งให้อย่างละเอียด และ มีโปรแกรม แนะนำ ในการปรับแต่งระบบ คอมพิวเตอร์ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

แนะนำ โปรแกรม Pc-Speed-Up


แนะนำ โปรแกรม ดี ๆ สำหรับปรับความเร็วให้ คอมพิวเตอร์ อย่างมีประสิทธิภาพ

Bofore And After

แนะนำ โปรแกรมเร่งความเร็วคอมพิวเตอร์ [ ไทยแวร์ ]

10 อันดับ โปรแกรมเร่งความเร็วคอมพิวเตอร์ ในรอบสัปดาห์

[ Click ดูโปรแกรม มีให้เลือกมากมาย ]

ทริคเร่งความเร็ว Windows 7 ให้ทำงานไวสุดๆ โดยไม่ต้องลงทุนเพิ่ม

ทริคเร่งความเร็ว Windows 7 ให้ทำงานไวสุดๆ โดยไม่ต้องลงทุนเพิ่ม

windows7-boot-screen
ตอนที่เราซื้อคอมมาใหม่ เราจะรู้สึกว่ามันแรงดี แต่พอใช้ไปสักพักจะรู้สึกว่ามันอืดขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งมันเกิดจากการที่เราติดตั้งโปรแกรมเข้าไปเพิ่มเติม และทำให้มีการเรียกใช้ Service ต่างๆ มากขึ้น ผมจะมาแนะนำขั้นตอนการปิด Service และ Programs ที่เราไม่ต้องการทิ้ง และปรับแต่งการทำงานของ Windows เพื่อเร่งประสิทธิภาพการทำงาน ให้กลับมาเหมือนเดิมครับ

เร่งความเร็วในการเปิดเครื่อง
ในหน้า Windows กดปุ่ม Windows+R พิมพ์ลงไปว่า msconfig แล้วกด Enter
01
ที่แท็บ Boot กดติกที่ช่อง No GUI boot แล้วเข้า Advance Option กดที่ Number of processors เลือกเป็น 2 แล้วกด Apply >> OK
02
ที่แท็บ Services เลือกปิด Services ที่ไม่จำเป็นทิ้ง ซึ่งตรงนี้คอมแต่ละเครื่องจะมีไม่เหมือนกันครับ เพราะแต่ละคนลงโปรแกรมไว้ต่างกัน ขอไกด์ให้คร่าวๆ ละกันครับ
03
  • Application Experience
    ทำหน้าที่ตรวจสอบและซ่อมแซ่มโปรแกรมที่มีปัญหาของ Windows 7
  • Computer Browser
    เป็นตัวช่วยในการอัปเดทของ Browser
  • Error Reporting Service
    ทำหน้าที่ส่งข้อมูลหรือรายงานให้ไมโครซอฟท์ทราบเวลาเครื่อง Error
  • Desktop Window Manager Session Manager
    ดูแลจัดการ Themes,Background ของ Windows 7
  • Diagnostic Policy Service
    วิเคราะห์และช่วยตรวจสอบปัญหาของ Services และ Components ต่างๆ ของ Windows.
  • IP Helper
    ทำให้เครื่องซัพพอร์ท IPv6 ซึ่งเป็นการเชื่อมต่อเครือข่ายกับ ISP แต่ปัจจุบันมีน้อยมากที่ใช้
  • IPv6IPsec Policy Agent
    เป็น Service ที่ IPS จะต้องการใช้เพื่อเพื่อความปลอดภัยในการติดต่อกันระหว่าง ISP กับเครื่องของลูกค้า
  • Offline Files
    ทำให้ใช้ Internet แบบ offline
  • Network List Service
    ทำหน้าที่เป็นตัวระบุการติดต่อ Network และดูแลคุณสมบัติของ Network เมื่อมีการแปลื่ยนแปลงของไฟล์หรือโปรแกรมใน Network ก็จะแจ้งให้ทราบ
  • Portable Device Enumerator Service
    ดูแลการถ่ายโอนข้อมูลไฟล์ Media ในอุปกรณ์ Removeable เช่น ไฟล์ Windows Media Player , รูปภาพ
  • Print Spooler
    เป็นตัวเก็บข้อมูลที่จะพิมพ์ไว้ก่อน ในกรณี Printer กำลังพิมพ์งานอื่นอยู่ เมื่อพิมพ์งานแรกเสร็จก็จะพิมพ์งานอื่นๆ ที่เก็บใน Print Spooler ต่อๆไป ทำให้คุณสามารถสั่งให้ Printer งานได้มาก
  • Distributed Link Tracking Client
    เป็น Service ที่ทำหน้าที่ ดูแลไฟล์ NTFS ที่อยู่ในเครื่องคุณกับเครื่องที่อยู่ในระบบเครือข่าย
  • Protected Storage
    ให้การป้องกันการจัดเก็บข้อมูลที่สำคัญ เช่น รหัสผ่านเพื่อป้องกันการเข้าใช้บริการโดยไม่ได้รับอนุญาต
  • Remote Access Connection Manager
    ทำหน้าที่ดูแลการต่อของ Dial-up และ VPN (Virtual Private Network)
  • Secondary Logon
    ช่วยให้สิทธิของยูสเซอร์คนอื่นๆ Log on เข้าระบบได้
  • Server
    เป็นตัวช่วยให้เครื่องแชร์ไฟล์และ Printer ในระบบ LAN
  • Shell Hardware Detection
    เป็นตัวช่วยให้วินโดวส์แสดงหน้าต่าง Auto Play ขึ้นมาเมื่อคุณเสียบอุปกรณ์ประเภท USB Drive, CD ,DVD ,Removable storage
  • Tablet PC Input Service
    เป็นตัวทำให้ใช้อุปกรณ์พวก Tablet PC , Pen
  • Themes
    ทำให้ Windows 7 ใช้ฟีเจอร์ Aero Glass , Theme ได้
  • · TCP/IP NetBIOS Helper
    ให้การสนับสนุนสำหรับ NetBIOS over TCP / IP (NetBT) เป็นการบริการ NetBIOS สำหรับผู้ใช้ในเครือข่าย ช่วยให้ผู้ใช้ไฟล์ร่วมกัน และการเข้าสู่ระบบเครือข่าย
  • Windows Search
    ข่วยการค้นหาไฟล์ อีเมล และเนื้อหาอื่นๆ
  • Remote Registry
    ช่วยให้ผู้ใช้ Remote จากที่คอมฯ เครื่องอื่นๆ เข้ามาแก้ไขการตั้งค่ารีจิสทรีในคอมฯ ได้
  • Windows Time
    ควบคุมดูแล การปรับวันที่และเวลา สำหรับเครื่อง Clients และ Services ในระบบเครือข่าย ทั้งหมด
  • Windows updates
    ช่วยตรวจสอบให้ดาวน์โหลดและติดตั้งโปรแกรมปรับปรุงสำหรับ Windows และโปรแกรมอื่นๆ
  • Windows firewall
    ช่วยปกป้องคอมฯ ของคุณโดยป้องกันผู้ใช้ไม่ได้รับอนุญาตจากการเข้าถึง เครื่องของคุณผ่านอินเทอร์เน็ตหรือเครือข่าย
  • Windows Image Acquisition
    เป็นตัวช่วยจัดการการติอต่อระหว่าง Scanner และ กล้องดิจิตอล
(รายการ Services ขอขอบคุณ http://www.multimedia.pibool.ac.th/article_read.php?a=44)
ที่แท็บ Startup เลือกปิดโปรแกรมที่จะทำงานทันทีที่เราเปิดเครื่อง โปรแกรมไหนไม่ได้ใช้ ไม่ค่อยใช้ ก็ปิดไปเลยครับ
04
เมื่อตั้งค่าทั้งหมดเสร็จสิ้นแล้วรีบูตคอมพิวเตอร์ 1 ครั้ง เป็นอันเสร็จ

เร่งความเร็วในการปิดเครื่อง
ในหน้า Windows กดปุ่ม Windows+R พิมพ์ลงไปว่า Regedit แล้วกด Enter
05
ไปที่ HKEY_LOCAL_MACHINESYSTEMCurrentControlSetControland มองที่หน้าต่างด้านขวาจะเห็น WaitToKillServiceTimeOut
ช่องนี้จะใส่ค่าได้ 2-20000 ให้ปรับเป็น 2 ครับ
06

ปิด Index Search ของ Windows เพื่อลดภาระตอนเปิดเครื่อง
คลิกขวาที่ My Computer เลือก Manage >> Services and Applications >> Services มองหา Windows Search
คลิกขวาที่ Windows Search >> Properties ตรง Startup type เลือก Disabled แล้วกด OK
07

ปิด Animation และการแสดงผลที่ไม่จำเป็นทิ้ง
(เลือกไว้สัก 3-4 อัน ก็ได้ ปิดหมด Windows จะดูไม่น่าใช้เท่าไหร่ smiley)
คลิกขวาที่ My Computer >> Properties >> Advanced System Settings >> Advanced >> Performance >> Settings >> Custom
08

ปรับแผนการใช้งานพลังงานให้เต็มที่
Windows 7 จะตั้งค่าการใช้พลังงานให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมของฮาร์ดแวร์โดยอัตโนมัติ แต่ถ้ามั่นใจว่าเครื่องแรง เราก็ตั้งให้เครื่องทำงานเต็มที่ไปเลยครับ (สำหรับโน้ตบุคไม่แนะนำครับ ถ้าไม่ได้เสียบปลั้กเล่น)
เข้า Control panel >> Power Options (อยู่ใน Hardware and sound) กด Show Additional plans เลือก High Performance
09

ปิดเสียงเตือนของระบบที่ไม่จำเป็นทิ้ง
นอกจากลดภาระของ Windows แล้ว ยังลดเสียงน่ารำคาญอีกด้วย
ในหน้า Windows กดปุ่ม Windows+R พิมพ์ลงไปว่า mmsys.cpl แล้วกด Enter
10
ไปที่แท็บ Sound จะมีสถานการณ์การแจ้งเตือนให้เลือก จะปิดอันไหน เลือกที่เหตุการณ์นั้น แล้วกด None (หรืออยากเปลื่ยนเสียงก็ทำได้นะ เลือก Browser แล้วเลือกไฟล์เสียง)
11

ทำการ Disk Defragment เพื่อจัดเรียงข้อมูลในฮาร์ดดิสค์ให้เป็นระเบียบ
ทำครั้งแรกอาจจะนานหน่อย แต่ถ้าเราทำประจำจะใช้เวลาน้อยลงครับ ทำสักเดือนละครั้ง กำลังดี
การทำให้เข้าไปที่ Start > All Programs > Accessories > System Tools > Disk Defragmenter
12

ถ้าทำทั้งหมดนี้แล้ว เชื่อว่าคอมพิวเตอร์ของคุณจะเร็วขึ้นอย่างแน่นอนครับ ยิ่งใคร Ram น้อยจะยิ่งเห็นผลที่ชัดเจนครับ แต่ถ้าคอมพิวเตอร์ของคุณเร็วอยู่แล้ว วิธีเหล่านี้คงไม่เห็นผลเท่าไหร่ครับ

ขอบคุณบทความดี ๆ จาก : ไทยแวร์

วันจันทร์ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2558

Speed ​​Up Internet เร่งความเร็วอินเตอร์เน็ตให้เร็วขึ้น แค่ 5 ขั้นตอน

Speed ​​Up Internet เร่งความเร็วอินเตอร์เน็ตให้เร็วขึ้น แค่ 5 ขั้นตอน


เร่งความเร็วอินเตอร์เน็ตให้เร็วกว่าเดิม ง่ายๆ แค่ 5 ขั้นตอน Speed ​​Up Internet การใช้งานอินเทอร์เน็ตเป็นสิ่งที่หลายคนใช้อยู่ในชีวิตประจำวัน เคยสังเกตกันบ้างหรือไม่ว่าบางครั้งก็เกิดปัญหาในเรื่องความเร็วบ้าง การเชื่อมต่อบ้าง สิ่งเหล่านี้มีโอกาสเกิดขึ้นได้เสมอ อย่างไรก็ดีหากเป็นเรื่องของความเร็วในการใช้งานแล้ว การปรับแต่งบางส่วนในเครื่องของเราเอง ก็มีส่วนช่วยให้ระบบโดยรวมทำงานได้ดีขึ้น อีกทั้งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับการเชื่อมต่ออีกด้วย ซึ่งสามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยตัวเอง ไม่กี่ขั้นตอน
Speed Up Internet
1.  Speed Up สุดจี๊ดตอนเล่นอินเทอร์เน็ต
ในขั้นตอนนี้เป็นวิธีที่ช่วยให้เครื่องไม่จำกัดแบนด์วิทธิ์ช่องทางข้อมูล ซึ่งเป็นการแก้ไขตัวเลขพื้นฐาน ที่ไม่ส่งผลกระทบต่อระบบในการทำงานแต่อย่างใด วิธีการง่ายๆ ก็คือ ให้เข้าสู่ระบบด้วยล็อกอิน Administrator เสียก่อน
-เริ่มต้นให้เรียกเมนู Run ขึ้นมา จากนั้นให้พิมพ์คำว่า gpedit.msc จะปรากฏหน้าต่าง Local group policy editorขึ้นมา
-จากนั้นให้กดที่เครื่องหมาย + หน้าหัวข้อ Administrative Template > Network > QoS Packet Scheduler
-ดูที่หน้าต่างทางขวามือ ให้ดับเบิลคลิกที่ Limit reservable bandwith
-เมื่อหน้าต่าง Limit reservable bandwith แสดงขึ้นมา ให้คลิกหน้าหัวข้อ Enable จากนั้นลงไปที่หัวข้อ Options ด้านล่าง ให้ปรับค่า Bandwidth limit (%) ให้เป็น 0 จากนั้นคลิก OK

ปรับค่า bps หรือ Bits per second
2.  ปรับค่า bps หรือ Bits per second ให้สุดๆ
วิธีการนี้เป็นการปรับค่าให้มีการ Receive buffer ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยให้เข้าไปที่ My Computer แล้วคลิกขวามเลือกที่ Properties จากนั้นคลิกที่แท็บ Hardware
  • ให้คลิกที่ + ด้านหน้า Ports (COM & LPT) จากนั้นดับเบิลคลิกพอร์ตที่ใช้ในการต่อโมเด็ม โดยปกติจะเป็น Com2
  • เมื่อปรากฏหน้าต่าง Communications Port Properties ขึ้นมา ให้คลิอกที่ Port Settings
  • จากนั้นให้ตั้งค่า Bits per second จากเดิมที่เป็น 9600 ให้ไปอยู่ที่ 57600 หรือมากกว่านั้น แต่ทางที่ดีไม่ควรให้สูงเกินไป
  • เสร็จแล้วเลือกที่ Flow Control ให้เป็น Hardware จากนั้นคลิกที่ Advance แล้วตั้งค่า Receive Buffer ให้สูงที่สุด

ปรับแก้ Registry สำหรับโหลดหน้าเว็บ
3.  ปรับแก้ Registry สำหรับโหลดหน้าเว็บ
เป็นอีกวิธีง่ายๆ สำหรับการช่วยให้การค้นหาและการโหลดเว็บให้เร็วยิ่งขึ้น
  • เริ่มด้วยการเรียกเมนู Run ขึ้นมา จากนั้นพิมพ์คำว่า regedit แล้วกด OK
  • จากนั้นให้เลือกไปที่ HKEY_LOCAL_MACHINE > SYSTEM > CurrentControlSet > Services > Tcpip > ServiceProvider
  • ให้ดูที่หน้าต่างด้านขวามือ แล้วให้เปลี่ยนค่าบนตัวแปรต่างๆ เหล่านี้ ให้กลายเป็น 1 ทั้งหมด ซึ่งจะประกอบไปด้วย
Class: 1
DnsPriority : 1 
HostsPriority : 1
LocalPriority : 1  
NetbtPriority : 1
กำหนดค่า MTU กำหนดค่าการรับ-ส่งข้อมูล
4.  กำหนดค่า MTU กำหนดค่าการรับ-ส่งข้อมูล
เป็นการตั้งค่าให้เครือข่ายมีการค้นหาค่า Maximum Transmission Unit ให้อัตโนมัติผ่านระบบเครือข่าย
  • ให้เรียกเมนู Run ขึ้นมา จากนั้นพิมพ์ regedit แล้วกด OK
  • จากนั้นให้ไปที่ HKEY_LOCAL_MACHINE > SYSTEM > CurrentControlSet > Services > Tcpip > Parameters > interfaces
  • ให้คลิกที่หน้า Interface ให้คลิกขวาที่หน้าโฟลเดอร์แรก แล้วเลือก new > DWORD Value > ตั้งชื่อเป็นMTU
  • เสร็จแล้วดับเบิลคลิก แล้วใส่ค่าเป็น 0 ในหัวข้อต่อไปนี้ หากใช้เป็น dial-up Connection ให้ใส่ค่า 576   หากใช้เป็น PPP Broadband Connecting ให้ใส่ค่า 1492   หากใช้เป็น Ethernet, DSL, Cable Broadband Connection ให้ใส่ค่า 1500

ลบไฟล์ใน Cache ให้หมด
5.  ลบไฟล์ใน Cache ให้หมดจด
เป็นการลบข้อมูลขยะ รวมถึงบรรดา Cache file ต่างๆ ออกไปจากระบบ ซึ่งก็จะช่วยให้ระบบเคลื่อนไหวได้คล่องตัวยิ่งขึ้น ซึ่งรวมถึงเว็บบราวซ์เซอร์ที่ใช้ในการทำงานด้วยเช่นกัน สามารถทำได้หลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการใช้ Disk Cleanup หรือการลบจาก Web Browser > Internet Option > Delete > Delete Browsing History

ที่มา : notebookspec

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น